iPhone 12 ของ Apple เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในปี 2020 แต่กว่าสองปีต่อมา การซื้ออุปกรณ์ในปี 2023 นั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดสมาร์ทโฟนมีการแข่งขันที่รุนแรงกว่าที่เคย บริษัทต่าง ๆ ต่างผลักดันให้ออกรุ่นเรือธงใหม่ทุกปี ในขณะที่สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นและระดับกลางกระจัดกระจายตลอดทั้งปี ในช่วงเวลาดังกล่าว หากสมาร์ทโฟนมีอายุที่เหมาะสมและเอาชนะรุ่นที่กำลังจะมาถึงหนึ่งหรือสองรุ่นจากคู่แข่ง ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะแนะนำแม้ว่า Apple จะเลิกผลิต iPhone 11 ในปี 2022

แต่ iPhone 12 ก็ยังคงแสดงอยู่ในเว็บไซต์ของบริษัท และมีเหตุผลที่ดีอยู่เบื้องหลัง ในปี 2566 การเชื่อมต่อ 5G จะพร้อมใช้งานในภูมิภาคต่างๆ มากขึ้นกว่าเดิม และผู้ใช้จะต้องมีสมาร์ทโฟน 5G เพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ iPhone 12 จะเป็นโทรศัพท์เรือธงที่มีราคาย่อมเยาที่สุดจาก Apple ที่รองรับ 5G (mmWave) ในขณะที่เขียน iPhone 12 รุ่น (128GB) มีจำหน่ายบนเว็บไซต์ทางการในราคา 649 ดอลลาร์ ในขณะที่ iPhone 14 รุ่นล่าสุดขายในราคา 799 ดอลลาร์

เหตุผลที่ควรพิจารณาเปิดตัว iPhone 12 ในปี 2023

หากผู้ใช้ต้องการประหยัดเงินอีก 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก็สามารถซื้อรุ่น iPhone 12 (64GB) ได้ในราคา 599 ดอลลาร์สหรัฐฯ และสมัครสมาชิก iCloud+ ในราคาเพียง 0.99 ดอลลาร์ต่อเดือนพร้อมพื้นที่บนคลาวด์ 50GB อีกเหตุผลหนึ่งที่จะซื้อ iPhone 12 ในปี 2023 ก็คือตัวประมวลผล iPhone 12 ปี 2020 มาพร้อมชิปเซ็ต A14 Bionic ของ Apple ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่า Snapdragon 8 Gen 1 ที่เปิดตัวในปี 2021 และ Tensor G2 ที่เปิดตัวในปี 2022 สมาร์ทโฟนรองรับงานหนัก เช่น การตัดต่อวิดีโอและการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน

และเรียกใช้เกมด้วยการตั้งค่ากราฟิกสูงสุดลงทุนใน iPhone 12 ดีกว่าซื้อโทรศัพท์ระดับกลางที่จะออกในปี 2023 เรามาพูดถึงการสนับสนุนซอฟต์แวร์กัน Apple เป็นที่รู้จักในด้านการให้การสนับสนุนซอฟต์แวร์ที่ยาวนานที่สุดในบรรดาผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทุกราย โดยเฉลี่ยแล้ว iPhone จะเห็นการอัปเดต iOS ประมาณ 5-7 ปี ซึ่งทำให้ iPhone 12 ออกสู่ตลาดได้อีก 3-5 ปี iPhone 12 ยังรองรับเทคโนโลยี MagSafe ของ Apple สำหรับการชาร์จแบบไร้สาย มีระบบกล้องคู่ความละเอียด 12MP ที่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดวัน

iPhone 12 รีวิว ความน่าใช้งาน

iPhone 12 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่ถูกเปิดตัวโดย Apple ในปี 2020 ซึ่งมาพร้อมกับการออกแบบที่สวยงามและความสามารถที่น่าสนใจ ดังนี้:

สเปกของ iPhone 12 ประกอบด้วย:

  • หน้าจอ: หน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซล
  • ชิปเซ็ต: A14 Bionic คือชิปเซ็ตที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง
  • กล้องหลัง: กล้องคู่ คือ กล้อง Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และ กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้า: กล้อง TrueDepth ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
  • แบตเตอรี่: แบตเตอรี่ขนาด 2,815 mAh รองรับการชาร์จไร้สายและ Fast charging
  • ระบบปฏิบัติการ: iOS 14 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ครบถ้วนและมีความสามารถที่หลากหลาย

iPhone 12 ยังมาพร้อมกับระบบ 5G ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและรองรับ MagSafe ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำหรับการชาร์จและอื่นๆ ในส่วนของการออกแบบ มีหลากหลายสีสันให้เลือกเช่น สีดำ สีขาว สีแดง และสีฟ้า ซึ่งทำให้คุณสามารถเลือกสีที่ชอบได้

รีวิว iPhone 12 มักจะชมคุณภาพกล้องที่คมชัด และประสิทธิภาพของชิปเซ็ต A14 Bionic ที่เป็นที่น่าทึ่ง ส่วนการรองรับ 5G จะช่วยเพิ่มความเร็วในการใช้งานและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการและการใช้งานของคุณให้ดีที่สุด เพื่อให้สามารถเลือกสมาร์ทโฟนที่เหมาะสมกับคุณได้ครับ

iPhone 12 Pro Max เทียบ iPhone 12

iPhone 12 Pro Max และ iPhone 12 เป็นสมาร์ทโฟนสองรุ่นที่ออกแบบโดย Apple ในปี 2020 ซึ่งมีความแตกต่างกันบางประการ ขอแสดงความแตกต่างระหว่างสองรุ่นดังนี้:

ขนาดและหน้าจอ:

iPhone 12 Pro Max มีขนาดใหญ่กว่า iPhone 12 ด้วยหน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว ในขณะที่ iPhone 12 มีหน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว

ความละเอียดของหน้าจอทั้งสองรุ่นเป็นเท่ากันที่ 2532 x 1170 พิกเซล

ระบบกล้อง:

iPhone 12 Pro Max มาพร้อมกับระบบกล้องที่มีความสามารถเพิ่มเติมเมื่อเทียบกับ iPhone 12 ซึ่งรวมถึงระบบกล้องหนึ่งเสียง LiDAR ที่ช่วยให้การถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมที่มืดมั่นคงและถ่ายวิดีโอได้ดีขึ้น

ทั้งสองรุ่นมีกล้องหลังคู่ ที่ประกอบด้วยกล้อง Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และ กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล

ระบบประมวลผล:

iPhone 12 Pro Max มาพร้อมกับชิปเซ็ต A14 Bionic ที่มีประสิทธิภาพสูง ที่ช่วยให้การใช้งานรวดเร็วและพลังงานประหยัด

iPhone 12 ก็ใช้ชิปเซ็ต A14 Bionic เหมือนกัน ทำให้มีประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกัน

ความจุแบตเตอรี่:

iPhone 12 Pro Max มีแบตเตอรี่ใหญ่กว่า iPhone 12 ที่ 3,687 mAh เมื่อเทียบกับ 2,815 mAh ของ iPhone 12

ระบบการเชื่อมต่อ:

ทั้งสองรุ่นมีระบบการเชื่อมต่อ 5G เพื่อให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เร็วและเสถียร

ขึ้นอยู่กับความต้องการและความสนใจของคุณ หากคุณต้องการขนาดหน้าจอใหญ่และระบบกล้องที่มีความสามารถเพิ่มเติมควรพิจารณา iPhone 12 Pro Max แต่ถ้าคุณต้องการขนาดหน้าจอที่เล็กกว่าและมีแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นควรพิจารณา iPhone 12 แทนครับ

iphone 12 กับ 12 pro ขนาดเท่ากันไหม

ทั้ง iPhone 12 และ iPhone 12 Pro มีขนาดเท่ากัน คือมีหน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว และความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซล ทำให้ขนาดของสองรุ่นนี้เท่ากัน แต่อาจมีความแตกต่างกันในคุณสมบัติและฟีเจอร์บางอย่างครับ ยกเว้นน้ำหนักของ iPhone 12 Pro จะมีน้ำหนักหนักกว่า iPhone 12 นิดเดียว ซึ่งเกิดจากส่วนเครื่องรูปในและชิปเซ็ตที่แตกต่างกันครับ

เปรียบเทียบ iPhone 12 กับ 13

iPhone 12 และ iPhone 13 เป็นสมาร์ทโฟนสองรุ่นที่ออกแบบโดย Apple โดยมีความแตกต่างกันบางประการ ขอแสดงความแตกต่างระหว่างสองรุ่นดังนี้:

ชิปเซ็ต:

iPhone 12 มาพร้อมกับชิปเซ็ต A14 Bionic ที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความเร็วในการทำงานอยู่ในระดับที่สูง

iPhone 13 มาพร้อมกับชิปเซ็ต A15 Bionic ที่มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นจาก A14 Bionic และสามารถเสริมความเร็วในการทำงานได้

กล้อง:

ทั้งสองรุ่นมีกล้องหลังคู่ที่ประกอบด้วยกล้อง Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และ กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล

iPhone 13 มาพร้อมกับปรับปรุงในซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้กล้องถ่ายภาพมีความเร็วและความแม่นยำมากขึ้น

ระบบแสดงผล:

iPhone 12 และ iPhone 13 มีหน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว และความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซล เหมือนกัน

ระบบการเชื่อมต่อ:

ทั้งสองรุ่นมีระบบการเชื่อมต่อ 5G เพื่อให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เร็วและเสถียร

แบตเตอรี่:

ความเปลี่ยนแปลงในแบตเตอรี่ของ iPhone 13 มีอยู่ที่การปรับปรุงให้ใช้งานได้นานขึ้น

ราคา:

โดยรวมแล้ว iPhone 13 อาจมีราคาในระดับที่ค่อนข้างเหมือนกับ iPhone 12 หรือมีราคาที่เล็กน้อยแตกต่างกันขึ้นอยู่กับรุ่นและความจำเป็นของผู้ใช้งาน

ควรพิจารณาความต้องการและงบประมาณที่มีในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่เหมาะสมกับคุณ ถ้าคุณต้องการสมาร์ทโฟนที่ใช้งานรวดเร็วและมีความสามารถใหม่ๆ ควรพิจารณา iPhone 13 แต่ถ้าคุณต้องการรุ่นก่อนหน้าและต้องการหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว สามารถพิจารณา iPhone 12 ได้ครับ

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเว็บของเรา

Pixel Watch เทียบกับ Galaxy Watch 4 คุณควรจ่ายเป็นสองเท่า

Destiny 2: How To Get The Bite of the Fox Sniper Rifle

ทำเงินอย่างรวดเร็วด้วยทรวงอกใน Hogwarts Legacy

วิธีการปัดป้องใน Sonic Frontiers

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://www.tomanzelc.com/

ขอบคุณแหล่งที่มา https://screenrant.com/is-the-iphone-12-worth-buying-in-2023/