กัญชาเสรี

พรรคเพื่อไทยออกมาค้าน นโยบาบกัญชาเสรี หวั่นเยาวชน เข้าถึงง่าย ติดยาและใช้ปาร์ตี้

เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ ได้พูดถึง กรณีการ “ปลดล็อกกัญชา” หลังจากที่ทางรัฐบาลมีมติ แก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ ว่าด้วยการ นำกัญชาออกจากการเป็น ยาเสพติดให้โทษ เพื่อใช้ในทางกาแพทย์ ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่งผลเสีย ต่อสังคม ขาดความรอบคอบ และไร้กฎหมายควบคุม

โดยที่ผ่านมา เครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชน รวมไปถึงแพทย์ทั่วประเทศ ได้ออกมาเรียกร้อง ให้ทำกันยกเลิกการ ปลดล็อคกัญชาเสรนี้ หากยังไม่มีกฎหมายใดออกมาควบคุม มิหน่ำซ้ำ มากกว่า 90 -95% กัญชาที่ประชาชนปลูก ไม่มีคุณภาพ และไม่สามารถ นำไปใช้ทางการแพทย์ได้ เพราะขาดความรู้ ความเข้าใจ ที่ดีพอ

ทำให้เกิดคำถามว่า กัญชาที่ขายไม่ได้ในทางการแพทย์ และอยู่ในภาวะล้นตลาด ผลผลิตเหล่านี้หายไปไหน หรือเอาไปขายที่ไหน ถ้าไม่มีการควบคุมผลผลิตจำนวนมาก จะไหลเข้าสู่ตลาดของการเสพกัญชาเสรี “กัญชา” เป็น “ยาเสพติด” ที่ผ่านมามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และทางการแพทย์มากมาย

ระบุว่า กัญชาได้ส่งผลกระทบต่อร่างกาย และการเจริญเติบโตของสมองเด็กและวัยรุ่น อย่างมากทั้งในฐานะผู้สูบด้วยตนเองหรือรับสารทางอ้อมจากคนในครอบครัว โดยข้อมูลวงเสวนาของศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด (ศศก.) พบว่า ในระยะเวลาที่รัฐบาลเปิดให้อยู่ในสถานะกัญชาเสรี มี เยาวชนผู้อายุต่ำกว่า 20 ปี สูบกัญชามากขึ้น 2 เท่า

เนื่องมาจากการเข้าถึงที่ง่ายขึ้น เพราะกัญชาหาง่ายขึ้น ผู้ป่วยที่เข้ารับการบำบัดทางจิตจากกัญชาสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปี 2564 อยู่ที่ 14% ส่วนปี 2565 เกือบ 17% ปัญหาใหญ่ คือ ถึงแม้ว่ามีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…)พ.ศ… ในอนาคต แต่ช่องว่างการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ การสูบกัญชาในบ้านอันเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล รัฐบาลจะทำอย่างไร

เพราะวันนี้ กัญชาไม่ใช่สารเสพติดอีกต่อไปแล้ว การสูบเพื่อความบันเทิง กำลังเป็นจุดเริ่มต้นของการเสพติดหรือไม่ โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชน และอาจนำพาไปสู่ยาเสพติดประเภทอื่นๆในอนาคต จะปราบยาเสพติดได้อย่างไรถ้าจุดเริ่มต้น เริ่มที่ “กัญชา” ดังนั้นการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกัญชาต้องครอบคลุม เกิดประโยชน์ทางการแพทย์อย่างแท้จริง

กัญชาเสรี

ฝ่ายที่สนับสนุนกัญชาเสรี ต้องชี้ให้เห็นว่ากัญชามีประโยชน์มากกว่ามีโทษ

เรียกร้องฝ่ายนิติบัญญัติ ส.ส. และ พรรคการเมืองพิจารณาอย่างรอบคอบ ‘เพื่อไทย’ ค้านกัญชาเสรี หวั่นเพื่อสันทนาการ – ‘ภูมิใจไทย’ ชี้ไม่มีใครสนับสนุนเพื่อสันทนาการ ยืนยันพรรคไม่เคยพูด ‘เพื่อไทย’ ค้านกัญชาเสรี หวั่นเพื่อสันทนาการ หากรัฐไม่มีมาตรการควบคุม เด็ก-เยาวชน เข้าถึงง่ายกว่าขนม จุดเริ่มต้นอนาคตของชาติขี้ยา

‘ภูมิใจไทย’ ชี้ไม่มีใครสนับสนุนกัญชาเพื่อสันทนาการ ยืนยันพรรคไม่เคยพูด ไม่หวั่นหากสภาแก้ช่วงวาระ 2 – ‘วิปรัฐบาล’ ระบุ ส.ส. มีเอกสิทธิ์โหวต ร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า-กัญชา 30 ต.ค. 2565 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทยแจ้งข่าวว่าดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายมีความกังวลเรื่องการปลดล็อกกัญชา

หลังจากมีการแก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2562 (ฉบับที่ 7 ) ว่า การปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดให้โทษ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2565 ทำให้ไทยกลายเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่แก้ไขกฎหมายให้กัญชาออกจากบัญชีสารเสพติด และใช้ในทางการแพทย์ได้ การปลดล็อกกัญชาโดยไร้กฎหมายควบคุมและขาดความรอบคอบได้ส่งผลเสียหายต่อสังคม

ที่ผ่านมาแพทย์ทั่วประเทศ เครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชน ได้เรียกร้องให้ปิดสภาวะกัญชาเสรี หากยังไม่มีกฎหมายควบคุม กัญชาเป็นยาเสพติด ที่ผ่านมามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และทางการแพทย์มากมาย ระบุว่ากัญชาได้ส่งผลกระทบต่อร่างกายแ ละการเจริญเติบโตของสมองเด็ก และวัยรุ่นอย่างมากทั้งในฐานะผู้สูบด้วยตนเอง

หรือรับสารทางอ้อมจากคนในครอบครัว นอกจากนี้ ศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด (ศศก.) ได้จัดเวทีเสวนาขึ้นโดยข้อมูลจากวงเสวนา พบว่า ในระยะเวลาที่รัฐบาลเปิดให้อยู่ในสถานะกัญชาเสรี มี เยาวชนผู้อายุต่ำกว่า 20 ปี สูบกัญชามากขึ้น 2 เท่า เนื่องมาจากการเข้าถึงที่ง่ายขึ้น เพราะกัญชาหาง่ายขึ้น ผู้ป่วยที่เข้ารับการบำบัดทางจิตจากกัญชา

สัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปี 2564 อยู่ที่ 14% ส่วนปี 2565 เกือบ 17% นอกจากนี้ยังพบว่ากัญชาที่ประชาชนปลูกมากกว่า มากกว่า 90 -95% คุณภาพของผลผลิตที่ได้ไม่สามารถนำไปใช้ทางการแพทย์ได้ เนื่องจากขาดองค์ความรู้ ทำให้เกิดคำถามว่า กัญชาท่ีขายไม่ได้ในทางการแพทย์ และอยู่ในภาวะล้นตลาดผลผลิตเหล่านี้หายไปไหน หรือเอาไปขายท่ีไหน

ถ้าไม่มีการควบคุมผลผลิตจำนวนมาก จะไหลเข้าสู่ตลาดของการเสพกัญชาเสรี ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่ออีกว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ในการสนับสนุนการใช้กัญชาทางการแพทย์ ไม่สนับสนุนกัญชาเพื่อสันทนาการ ดังนั้นการออกกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับกัญชาต้องครอบคลุม เกิดประโยชน์ทางการแพทย์อย่างแท้จริง

ฝ่ายนิติบัญญัติมีหน้าที่ในการพิจารณากฎหมายอย่างรอบคอบ ส.ส.ทุกคนและทุกพรรคการเมืองมีเอกสิทธิ์ในการผ่านกฎหมาย ดังนั้นการชี้ให้เห็นว่ากัญชามีประโยชน์มากกว่ามีโทษและการผ่านกฎหมายนั้นสำคัญเป็นเรื่องที่ฝ่ายที่สนับสนุนกัญชาเสรีต้องกระทำ “อย่ามัวแต่โทษคนอื่น”

“วันนี้ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นคือ ถึงแม้ว่ามีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…)พ.ศ… ในอนาคต แต่ช่องว่างการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ การสูบกัญชาในบ้านอันเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล รัฐบาลจะทำอย่างไร เพราะอย่าลืมว่า วันนี้กัญชาไม่ใช่สารเสพติดอีกต่อไปแล้ว การสูบเพื่อความบันเทิงกำลังเป็นจุดเริ่มต้นของการเสพติดหรือไม่

โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชนและอาจนำพาไปสู่ยาเสพติดประเภทอื่นๆในอนาคต จะปราบยาเสพติดได้อย่างไรถ้าจุดเริ่มต้น เริ่มที่กัญชา” ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าว

ขอบคุณแหล่งที่มา : komchadluek / prachatai.com

สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ : tomanzelc.com